ที่ดินตาบอด เป็นชื่อเรียกตามภาษาชาวบ้านทั่วไป ที่หมายถึงที่ดินที่ไม่มีทางออกสู่ทางหลัก หรือทางสาธารณะ ที่ดินตาบอดนี้เป็นที่ดินที่มักจะสร้างปัญหาให้กับคนที่เป็นเจ้าของที่ดินแปลงนั้นเสมอๆ เพราะว่าการที่ไม่มีทางเข้าออกนั้น มันทำให้เจ้าของที่ดินเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของตัวเองได้อย่างเต็มที่ หรือบางที่ก็อาจจะไม่สามารถทำประโยชน์ในที่ดินได้เลย สาเหตุก็เพราะว่า เมื่อไม่มีทางเข้าออกในที่ดินของตัวเองแล้ว มันก็ต้องอาศัยตัดผ่านเข้าไปยังที่ดินของคนอื่นเขา ซึ่งตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา คือ เจ้าของที่ดินที่ถูกผ่านไม่ค่อยจะยินดีจะให้ใครมาผ่านเขาออกซักเท่าไหร่ บางครั้งก็อาจถึงขั้นลงไม้ลงมือฆ่ากันตายเลยก็มีอยู่บ่อยๆ ก็ระวังๆกันไว้ด้วยนะครับ
ปกติที่ดินทุกแปลงจะมีการทำทางเข้าทางออกอยู่ด้วยเสมอ และหากรายใดไม่มีทางเข้าออกจริงๆ ก็มักจะมีการพูดคุยกับที่ดินแปลงข้างเคียง เพื่อขอเปิดทางเข้าออกไปสู่ถนนหลักได้ ซึ่งสมัยก่อนการพูดคุยกันไม่ใช่ยาก เพราะว่าในสมัยนั้นมันต้องพึ่งพาอาศัยกันในฐานะเพื่อนบ้าน แต่พอมาถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งอะไรๆ มันก็เปลี่ยนไป ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ที่ตัวเองจะได้รับ หากไม่มีข้อเสนอที่ดี ก็อย่าหวังมาคุยกันให้เปลืองน้ำลายเลย มันก็เป็นเสียอย่างงั้นไป
ปัญหาที่ดินตาบอดปัจจุบันที่พบ มักจะเกิดจากการแบ่งที่ดินจากแปลงใหญ่ มาซอยย่อยออกมาเป็นแปลงเล็กๆ เพื่อแบ่งระหว่างพี่น้อง หรือกรณีที่เป็นการขอใช้ทางที่ดินของคนอื่น แล้วต่อมาภายหลังลูกหลานเขาไม่อยากให้ใช้เป็นทางเข้าออก ก็มาปิดเสียอย่างนี้เป็นต้น ดังนั้นเมื่อใครมีปัญหาเกี่ยวกับที่ดินตาบอดที่ใกล้เคียงกับที่เล่ามานี้ ก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจ หรือมานั่งร้องห่มร้องไห้ให้เสียสุขภาพจิตไปนะครับ เพราะเรื่องเหล่านี้มันมีทางแก้อยู่แล้วครับท่าน
หากกรณีที่ที่ดินตาบอดไม่มีทางออก เพราะว่ามีที่ดินแปลงอื่นล้อมอยู่ หรือว่ามีทางออกแต่ว่าทางเข้าออกนั้นเข้าออกได้ลำบาก เพราะว่าต้องข้ามสระ ข้ามบึง ข้ามทะเล หรือว่ามันเป็นทางชัน ซึ่งทำให้การเข้าออกนั้นลำบากมากๆๆ อย่างนี้กฎหมายก็บอกว่า เจ้าของที่ดินนั้นมีสิทธิที่จะขอทางจำเป็นในการเข้าออก ผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ ออกไปสู่ทางสาธารณะได้ครับ
เมื่อได้ทางจำเป็นมาแล้ว การทำทางเข้าออกก็ต้องทำพอสมควร หรือตามความจำเป็นที่จะต้องใช้เท่านั้น โดยคำนึงให้เจ้าของที่ดินที่ถูกใช้เป็นทางเข้าออกนั้น เสียหายน้อยที่สุด ไม่ใช่ว่าใช้เป็นแค่ทางเดินเข้าเดินออก แต่ไปทำทางกว้างเสียรถบรรทุกวิ่งเข้าออกได้ อย่างนี้ก็เกินไป เอาแค่ใช้แค่ไหนก็ทำทางเท่านั้นนะครับ หากกรณีจำเป็นต้องใช้รถวิ่งเข้าออกด้วย อย่างนี้ก็สามารถสร้างถนนผ่านเลยก็ได้
เมื่อได้ทางเข้าออกมาเป็นประโยชน์กับที่ดินของตัวเองสมใจแล้ว ก็อย่าเพิ่งเอาแต่ดีใจไปนะครับ เพราะว่าของฟรีไม่มีในโลก ผู้ใช้ทางต้องเสียค่าทดแทนให้แก่เจ้าของที่ดินที่ถูกใช้เป็นทางผ่านนั้นด้วยนะครับ ส่วนจะเป็นค่าทดแทนความเสียหายเป็นจำนวนเท่าไหร่ ตรงนี้ก็ต้องไปประเมินและตกลงกันอีกครั้งครับ ซึ่งค่าทดแทนที่ว่านี้ อาจจะเป็นเงินก้อนเดียว หรือเป็นเงินรายปีก็ได้เช่นกัน และสุดท้ายหากตกลงกันได้ด้วยดี ก็ควรจะพากันไปจดทะเบียนภารจำยอมกันให้เรียบร้อยด้วยนะครับ
สุดท้ายนี้ ในการใช้สิทธิตามกฎหมาย โดยการไปขอทางจำเป็น ถ้าเป็นการไปขอโดยปากเปล่ากับเจ้าของที่ดินแปลงที่ล้อมอยู่ เพื่อขอทางเข้าออกอย่างตรงๆ ส่วนมากแล้วคงไม่มีใครยินยอม ซึ่งหากกรณีเป็นอย่างนี้ การขอใช้สิทธิในเรื่องทางจำเป็นก็คงต้องไปพึ่งโรงพึ่งศาลแทนแหละครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น